โอวเป็นวิชาการมากเลยครับ ผมก็เขียนนะ แต่เขียนแบบคนฟังมากกว่าเพราะไม่รู้เรื่องทางเทคนิคเลย

ช่วยแนะนำด้วยนะครับ ^^ อยากมีกระทู้คุยเรื่องเฮาส์ไว้บ้างแฮะ อิอิ
ก่อนมาฟังเพลง House เรามารู้จักกันก่อนดีกว่านะครับว่าเพลง House คืออะไร ที่มาที่ไปมันเป็นแนวเพลงมาจากไหนอะไรยังไง ผมจะพยายามถ่ายทอดตามที่รู้ให้ฟังแล้วกันครับผมเพลงแนว House ถ้าพูดกันถึงขั้นพื้นฐานก็จะอยู่ในสไตล์ Electronic,Dance เพลงแนวนี้เริ่มเป็นที่นิยมกันในยุค '80S ตามไนท์คลับต่างๆ ซึ่งในแต่ก่อนดนตรีแนวนี้จะอยู่ในเฉพาะกลุ่ม เช่น กลุ่มคนอัฟริกัน กลุ่มชาวละติน และกลุ่มรักร่วมเพศ (มีเสียวอย่างหลัง อิอิ) แล้วก็เริ่มแพร่กระจายจากเมืองชิคาโก ไปสู่นิวยอร์ค ดีทรอยท์ และในที่สุด ก็ข้ามทวีปไปนิยมในยุโรป ก่อนจะกลายเป็นแนวดนตรีในกระแสหลักที่ได้รับความนิยมทั่วโลกคราวนี้ก็มาพูดที่มาที่ไปกันเลยแล้วกัน เพลง House ได้รับอิทธิพลมาจาก 4 แนวเพลงใหญ่ๆดังนี้1.Euro Disco ใน Euro Disco นี้ก็จะมีแนวเพลงอย่าง Disco และ Synthpop ที่เพลง House นำมาใช้ 2.Funk ใน Funk นี้เพลง House เค้าก็เอามาหมดเลยเช่น Deep, Funky, Latin3.Rap ใน Rap งงล่ะซิครับมี Rap ด้วยฮ่าๆ แต่อย่าไปงงครับ Rap มันเป็น Major ใหญ่ใน Rap นี้ก็มีแค่เพลง Electro แหล่ะครับที่ House นำมาใช้4.Jazz ใน Jazz จริงๆไม่มีเพลงที่ House นำไปใช้แต่เนื่องจากเพลง Soul นั้นพัฒนามาจาก Rhythm and blues แล้วเจ้า Rhythm and blues เนี่ยมาก็ได้ถูกพัฒนามาจาก Jazz อีกทีนึงจึงอยากให้เห็นภาพรวมเลยขอใช้ Jazz เป็นตัวเมนแล้วกันนะครับ **หมายเหตุ ที่แยกให้เห็นกันเป็นกลุ่มใหญ่แบบนี้ เพราะเนื่องจากเพลง House มี Subgenres ค่อนข้างเยอะมากจึงทำให้ใครต่อหลายคนสับสน ซึ่งถ้าเราแจกแจงใหญ่ๆแบบนี้แล้ว ถ้ามันมีสไตล์นู้นสไตลนี้มาเราจะได้ไม่แปลกใจ และจะได้ไม่ต้องมาตั้งคำถามในใจอีกครั้ง**(ยังไงซะแนวเพลงมันก็พัฒนาเรื่อยอยู่แล้ว อิอิ)หลังจากได้ผสมผสานแนวเพลงที่กล่าวข้างต้นแล้วเพลง House ก็จะเน้นกลองและเบสไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนบวกกับ synthesizer ที่คอยสอดแทรกอยู่ทั้งเพลง หรือแม้แต่กระทั่งคำร้อง (มีทั้งยืดเสียงร้องให้ช้าลง หรือตัดออกมาเป็นคำๆ) เนื่องจากเพลง House ถูกผสมผสานมาจากหลายแนวเพลงจึงทำให้มี Subgenres (อย่างที่เคยพูดไปข้างต้น) ค่อนข้างเยอะเรามารู้กันเลยดีกว่าว่ามันมี Subgenres อะไรบ้าง• Acid house
• Balearic beat
• Dark house
• Diva house
• Euro house
• Microhouse
• Progressive house
• Electro house
• Dream house
• Tribal house
• Disco house
• Vocal house
• Hardbag
• Deep house
• Tech houseไงล่ะครับเยอะลำดับนึงเลยทีเดียว นี่เลยเป็นที่มาของความสับสนของแนวเพลง House ซึ่งความสับสนที่เรามักเกิดขึ้นในใจก็ดี และก็มีคนตั้งกระทู้ถามบ้างก็ดีคงจะหนีไม่พ้น คำถามที่ว่า House กับ Trance มันต่างกันยังไง
ตรงนี้ก็พูดถึงคร่าวๆแล้วกันนะครับ ผมมันก็เป็นแค่คนฟังเพลงที่ไม่เก่งทั้งเรื่องดนตรี และภาษาอังกฤษซะด้วยก็จะพยายามอธิบายให้เข้าใจแล้วกัน ก็อย่างที่บอกครับเดิมทีเพลง House มันก็ยุ่งอยู่แค่แนวเพลง Disco, boogie, soul, funk, electro, electropop และ synthpop โดยประมาณ
แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปการพัฒนาก็เกิดขึ้น...แล้วก็กลายมาเป็น Progressive house (Progressive house จะอธิบายง่ายก็แนวเพลง House สมัยใหม่ล่ะมั้ง) และก็ลูกหม้ออย่างเจ้า Tech house ซึ่งถ้าอ่านใน WIKI เค้าให้อยู่ในหมวด Progressive electronic dance music ซึ่งเจ้า Progressive trance มันก็อยู่ในนี้ด้วย
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่แนวเพลงมันจะคล้ายกัน แต่ถ้ามองถึง Detail มันก็ต่างกันอยู่แต่โดยรวมหนีกันไม่มากหรอกครับ (ประดุจเหมือนพี่น้อง)
อ่า...ได้เวลามาพูดคุยกันต่อเลยครับพักเรื่องความต่างระหว่าง House กับ Trance ไปก่อนนะครับ ไว้ค่อยมาคุยกันต่อเราเอาให้พอเข้าใจว่าเพลง House มีลักษณะอย่างไรบ้างก่อนดีกว่าครับ เมื่อครั้งต่อไปเราพูดถึงเรื่อง Trance จะได้เข้าใจได้ไม่ยาก
ต่อไปผมก็จะลองแนะเพลง House ในแบบต่างให้ฟังกันดูนะครับใครชอบแนวไหนก็คงจะได้รู้คราวนี้แหล่ะ
James Perri - The Power (Atjazz Remix)เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่ผมได้ฟังเพลง House เลยจำได้ว่าได้ฟังตอนม.ต้น เพลงนี้วางแผงประมาณปี 2000 ก็แสดงว่าเพลงเกิดหลังที่เพลง House ถือกำเนิดมา 20 ปีแล้ว
ซึ่ง ปี 2000 นี่น่าจะเข้าสู่ยุคช่วง Peak ของเพลง House ในต่างประเทศบ้างแล้วล่ะเพราะในชุดนี้ผมว่า Sound เพลงยังทันสมัยอยู่ถึงแม้ปีนี้จะ 2010 แล้วก็ตาม
และเท่าที่ผมฟังชุดนี้แล่ะชุดถัดๆมาแนวเพลงจะเป็น
Deep House + Soul + Funk นิดๆซึ่งดูมีเสน่มาก ออกแนว Sexsy หน่อยๆ (นี่คงเป็นเหตุที่เพลง House อยู่ในพวกกลุ่มรักร่วมเพศล่ะมั้ง เอิ้กๆ)
สำหรับเพลง House ในช่วง '90s จนถึงปี 2000 ผมว่าเพลง House ยังฟังง่ายนะ Sound ไม่หลากหลายเท่าปัจจุบัน เพลงก็ออกแนวโยกตัวตามนิดๆ แต่ปัจจุบันมีตั้งแต่นอนฟังยังได้จนถึงขั้นต้องลุกไปเต้น ฮ่าๆ
งันลองฟังดูก่อนแล้วกันนะครับ....เดี๋ยวเพลงต่อไปก็จะเอาเพลง Deep House ให้ฟังอีกจะได้รู้แนวเพลง
ปล.ถ้าเห็นใน GENRE ว่ามี Downtempo นี่ปล่อยผ่านไปก่อนนะครับ เพราะเดี๋ยวก็จะได้เห็นว่ามันมีแนวอื่นสอดแทรกเยอะมาก (ถ้าใครเอาน่ะขออยากรู้คร่าวๆก่อนได้ไหม ก็ขออธิบายไว้ว่าเป็น Sound Electronic ที่มีจังหวะช้าๆเนือยๆอ่ะครับ ถ้าถามว่าต่างจาก Ambient นี่ก็ยาวอีกแหล่ะครับ 55)
----------------------------------------------------------------------------------
Morgan Geist - Lullabyมาต่อที่เพลงที่2 ก็ยังคงสไตล์เหมือนเพลงแรกแต่จะไม่มีในส่วน Vocal แล่ะได้ฟังดนตรีกันไปเต็มๆเพื่อให้จับจังหวะความเป็น Deep House ให้ได้ก่อน (แต่ต้องระวังอย่าไปคิดท่วงทำนองสโลๆ ทั้งหมดคือเพลง Deep House นะครับ เพราะที่เพลงเนือยเพราะมีเจ้า Downtempo มาเจืออยู่อย่าพึ่งสับสนล่ะ เพราะเดี๋ยวถ้าเจอ Chill House จะอ้วกแตกกันไปก่อน ฮ่าๆ)
อันนี้ถูกวางแผนในปี 2001 ของค่าย Naked Music (ชอบค่ายนี้ทำเพลง House ถูกใจผมดี)
----------------------------------------------------------------------------------
Wighnomy Brothers - La Colazioneหลังจากเราได้ฟังไป 2 เพลงแล้วพอจับแนว Deep House พอได้หรือยังครับ มาถึงเพลงที่ 3 นี้ผมพยายามหาอันที่ใกล้เคียง 2 อันแรกแต่ต่างค่ายเอามาให้ฟังกันดูก็จะรู้เลยว่ามันใกล้กันมาก ซึ่งถ้าเราอ่านความหมายคำว่า
Deep house ดังนั้นขอสรุปตามความเข้าใจดังนี้นะครับ (สำหรับทางวิชาการก็ไปอ่านเอาใน Wiki เด้อ)
Deep House = การผสมผสานอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งหมดของ Soul, Jazz, Disco,
Downtempo* และ soulful vocal (อันนี้อธิบายยากแหะ จะให้เข้าใจมันก็คือเสียงที่ท่านได้ยินในเพลงแหล่ะ จะมองว่าเสียง sexy ก็ได้ เสียงหลอนๆ เสียงเท่ ก็แล้วแต่นิยามกันเองเลยครับ) เพราะถ้าเพลงแนว Deep House เสียงมันจะแนวประมาณนี้เป็นส่วนใหญ่ ของผมให้นิยามว่า "เสียงXXX" เพราะอธิบายไม่ถูกเลยให้ติดค่า X ไว้
Downtempo* ถ้าให้พูดให้เข้าใจก็เหมือนเรากดคีย์โน้ตค้างไว้แล้วสร้างสรรค์ Beat หรือ Groove ให้เป็น Loop อ่ะครับ ซึ่งเราก็จะเจอ Downtempo ได้ในเพลง Trance, Chill-Out และ Lounge ได้เช่นกัน
สำหรับคำอธิบายตรงนี้ เป็นคำอธิบายเวลาผมบอกเพื่อนว่ามันเป็นยังไงว่ะไอ้เจ้า Deep House เนี่ย"ง่ายๆเลยมิง เสียงจังหวะมันจะ ตึบ ตึบ ตึบ แล้วมีเสียงบรรยากาศคลอๆ บวกกับเสียง XXX และสุดท้ายเพลงไม่ ตึบ ตึบ ตึบ ถึงกับต้องลุกขึ้นมาเต้น เต็มที่ก็โยกหัวตามเท่านั้นแหล่ะ"----------------------------------------------------------------------------------
แล้วก็ขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้เรียนรู้เพลง Deep House ไปครึ่งนึงแล้ว เหลืออีกครึ่งนึงเดี๋ยวขอเรียบเรียงก่อนนะพี่น้องทั้งหลายๆ เขียนไปมึนไปไม่เคยมานั่งแตกประเด็นอะไรเยอะขนาดนี้เลย
จริงผมล้อเล่นครับว่าแค่ครึ่งเดียว จริงๆัมันอาจจะวัดไม่ได้เลยต่างหาก เพราะ
อย่างที่บอกแนวเพลงมันก็ผสมผสานไปเรื่อยๆ ยิ่งเวลาผ่านไปแนวที่เราเคยยิดติดมันก็จะเปลี่ยนไป แล้วยิ่งผสมกันเยอะมากขึ้นมันก็ยิ่งทำให้เรางง เอาพอเข้าใจตัวเราเองก็พอครับอย่างเช่นเพลงต่อไปนี้ก็เป็นเพลงแนว Deep House ที่สมัยใหม่มากขึ้น (ไม่รู้จะใช้คำไหนเลยแฮะ) เอาเป็นว่าเป็นเพลงที่วางแผน 2006 ไปจนถึง 2009 ลองฟังกันดูนะครับ
Digital Racoons - The Master (Original Mix) - 2006อย่างเพลงนี้ก็ได้ตัดความเป็น Downtempo ออกไปบวกกับความสนุกสนานของเพลงมากขึ้นก็จะออกมาแนวนี้
Moments Of Soul - Live My Life (Full Vocal Mix) - 2008แม้กระทั่งเพลงนี้ถึงแม้จะใหม่กว่าเพลง
The Master (Original Mix) แต่ก็ยังคงสไตล์ความเป็น Downtempo ไว้แต่ไม่มากเหมือนเพลงยุค 1990-2000 แถมยังมีเสียงกีตาร์เข้ามาผสมผสานอีกต่างหาก ก็ได้อีก feel นึงครับ
Don't Mess With My Man (Bobby Blanco Vocal Mix) - 2007และพอยิ่งมาฟังเพลงนี้โอว....จะให้ลุกมาเต้นก็ยังพอได้เลย ลองพยายามหาความแตกต่างของแต่ละเพลงดูครับเราก็จะจับจุดได้เพลงแนว Deep House มันจะออกแนวไหน
Haji & Emanuel - Caught In The Moment - 2009เพลงนี้ให้ไปเก็บคิดกันเล่นๆครับว่ามีความเป็น Deep House ตรงไหนบ้างเอาเฉพาะที่เราเข้าใจตอนนี้อ่ะครับ ลองดูนะ ถ้าวิจารณ์เพลงนี้ได้ผมว่าคงเข้าใจเกินครึ่งอ่ะงานนี้ หุหุ
----------------------------------------------------------------------------------
ต่อไปเราจะมาเรียนรู้เพลงแนว
Tech house กันนะครับเพลงแนวนี้ถ้าให้ฟังเอาแค่ Tech House มันมีลักษณะอย่างไรผมว่าง่ายมากเลยสำหรับเพลงแนวนี้ แต่ถ้าให้บอกมันผสมผสานอะไรบ้าง เช่น Minimal ไหม Techno ไหม ambient หรือเปล่า Trance ด้วยหรือเปล่าอันเนี้ยแหล่ะครับที่จะยาก ยังไงก็ต้องอาศัยฟังเยอะๆเอาแหล่ะครับครับ มาลองฟังกันเลย
Chris Querido - She's Dancingสำหรับเหตุผลที่ผมเลือกเพลงนี้มาเพราะมันฟังง่ายซาวด์เคียร์ดี (ให้จำความเรียบง่ายซาวด์เคียร์นี้ไว้ครับ เมื่อเราเจอเพลงที่เค้าบอกว่า minimal มันจะออกแนวนี้)
----------------------------------------------------------------------------------
Babak Shayan - My Lifeเพลงที่ 2 ผมให้ทบทวนบทเรียนเก่าเรื่อง Deep House ครับลืมกันไปหรือยังเอ่ย คงจะไม่ลืมนะครับเพลงนี้ถ้าเราฟัง Deep House เป็นอย่แล้วจะรู้เลย Sound แบบไหนที่เค้าเรียกว่า Tech House
----------------------------------------------------------------------------------
Pablo Bolivar - Modern Time - siberiaในเพลงที่ 3 นี้ยังคงสไตล์เพลงเหมือนเพลง
Babak Shayan - My Life แต่ที่แตกต่างคือมีเสียงร้องเป็นคำๆ อ่าเริ่มเก็ทบ้างยังครับแนว Deep House มันจะมีเสียงร้องแนวนี้อยู่ ลองหาความเป็น Deep House ดูก่อนครับ แล้วเราก็จะรู้สิ่งที่นอกเหนือจากนั้นมันคือแนว Tech House นั่นเอง
----------------------------------------------------------------------------------
Salt Sweet- City Shell (Valentin H remix)หลังผ่านไป 3 เพลงเริ่มจับจุดได้บ้างยังครับ ถ้ายังผมแนะนำให้ลองฟังเพลงนี้เพิ่มดูเพลงนี้จะมีความเป็น Tech House มากขึ้น (น่าจะรู้แล้วล่ะผมว่านะสำหรับเพลงนี้)
----------------------------------------------------------------------------------
DJ Sneak- After Greens Mash Up - Original Mixเพลงสุดท้ายนี้ผมกันเหนียวสำหรับคนที่ยังฟังเพลงที่ 4 ไม่ออก เพลงนี้ความเป็น Tech House จ๋ามากดูจาก Sound เหมือนเสียงเคาะเหล็ก Sound จิ๋วๆ เหมือนแมลงอะไรซักอย่าง หรือถ้าสังเกตุง่ายๆ จากที่เราฟังตั้งแต่เพลง 2-4 มา ความเป็น Deep House จะลดลงมาเรื่อยๆจนมาถึงเพลงนี้ความเป็น Deep House ก็แทบจะเป็นแค่จังหวะของเพลงอย่างเดียวเลย ส่วนลูกเล่นของเพลงคงต้องยกให้พี่ Tech House เค้าไปเต็มๆ
คงพอเข้าใจไม่มากก็น้อยนะครับสำหรับแนวเพลง Tech House ที่ผมอธิบายมา
**ถ้าให้สรุปนะครับ เพลงแนว Tech House ถ้าเป็น Tech House เพียวๆเราก็ต้องสังเกตุความเป็น Minimal เป็น Techno เป็น และไปจนถึง Trance กันเลยทีเดียว เมื่อเรารู้ 2-3 สิ่งนี้แล้วเราจะรู้ว่าเพลงที่เราฟังมันเป็น Tech House ที่เจือแนวเพลงไหนอยู่
ในทางตรงข้ามถ้ามันไปผสมผสานกับ Deep House เราก็ควรต้องแยกความเป็น Deep House ให้ได้ก่อนแล้วเราก็จะรู้เองครับว่าอันไหนคือ Tech House**สำหรับผมคิดว่าตั้งแต่เราเริ่มเรียนรู้ Tech House แล้วเนี่ยจะนิยามมันยากแล้วล่ะครับ เราต้องเน้นฟังแล้วเข้าใจเองมากกว่าเพราะมันพูดยากจริงๆนะเออ (ถ้าใครฟังแล้วเก็ท แถมมีคำพูดที่พูดได้เข้าใจกว่าผมก็มาช่วยแนะนำได้นะครับ ช่วยๆกันครับ!!)ผมเขียนถึงเท่านี้อยู่เดี๋ยวถ้าเขียนเพิ่มจะมาอัพเดทให้ครับ ผมเข้าใจผิดตรงไหนชี้แนะด้วยนะ ขอบคุณล่วงหน้าครับ